แนวความคิดในการจัดการเรียนการสอนวิชาเกษตรในระดับประถมศึกษา
|
รศ.ชนะ วันหนุน
บทบาทและความสำคัญของวิชาเกษตรในโรงเรียน
|
นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2475
เป็นต้นมา ซึ่งเป็นปีที่ได้เริ่มต้นจัดทำแผนการศึกษาของชาติ พบว่า ได้มีการบรรจุวิชาเกษตรไว้ในหลักสูตรการศึกษาแล้ว
และต่อมาได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ตามสภาวะทางเศรษฐกิจสังคมและการเมืองแต่ละยุคสมัยที่ได้ให้ความสำคัญของวิชาเกษตรแตกต่างกันไป
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสนใจและความคิดเห็นของผู้ที่มีบทบาทและอำนวจในการจัดวางแผนการศึกษาของชาติในสมัยนั้น
ๆ เช่น ในสมัยเริ่มแรกของการจัดวางแผนการศึกษาในรัชกาลที่ 5 ในขณะนั้นเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีเป็นบุคคลที่มีบทบาทและความสำคัญในการวางแผนการจัดการศึกษา
ท่านได้ริเริ่มนำวิชาเกษตรมาบรรจุไว้ในหลักสูตร เนื่องจากท่านได้มองเห็นความสำคัญของอาชีพการเกษตร
โดยเฉพาะท่านคิดว่าประเทศไทยมีสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศเหมาะสมแก่การเกษตร ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพการเกษตร
สินค้าออกที่สำคัญก็คือสินค้าทางเกษตร และอาชีพการเกษตรในสมัยนั้นทำให้บ้านเมืองมีอาหารอุดมสมบูรณ์
ประชาชนอยู่ดีกินดีมีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์ ทุกคนมีความสุข และมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ
ทำให้อาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น การธุรกิจค้าขายและอื่น ๆ ท่านคิดว่าถ้าหากไม่บรรจุวิชาเกษตรไว้ในหลักสูตรแล้ว
อาจจะทำให้เยาวชนลืมความรู้เกี่ยวกับการเกษตร อาจจะเลิกประกอบอาชีพเกษตรกรรมเสียหมด
โดยเฉพาะนักเรียนทางนายสามัญ จึงได้บรรจุวิชาการเกษตรสอดแทรกเข้าไปในหลักสูตร โดยให้นักเรียนและฝึกปฏิบัติอย่างง่าย
ๆ ให้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างน้อย นอกจากนั้นท่านยังได้ส่งเสริมให้ครูผู้สอนได้มีโอกาสศึกษาวิชาเกษตรอย่างจริงจัง
และถูกต้องเพื่อนำมาสอนนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้เกิดโรงเรียนฝึกหัดครูเกษตรขึ้น
ต่อมาเมื่อหมดสมัยเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
บุคคลอื่นมีบทบาทขึ้นมาบริหารการศึกษาแทนมีการเปลี่ยนแปลงแผนการศึกษาของชาติ หลายครั้งหลายฉบับ
ทำให้วิชาเกษตรได้รับการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเป็นอย่างมาก ซึ่งมีทั้งการส่งเสริมการศึกษาทางเกษตร
และไม่ส่งเสริมการศึกษาทางเกษตร ยกตัวอย่างแผนการศึกษาของชาติฉบับปัจจุบัน (พุทธศักราช
2520) ได้เน้นและให้ความสำคัญของวิชาเกษตรไว้ค่อนข้างมาก ซึ่งจะเห็นได้จากหลักสูตรในระดับต่าง
ๆ ได้จัดวิชาเกษตรไว้ในกลุ่มวิชาการงานพื้นฐานอาชีพ มีการกำหนดรายวิชาจำนวนคาบหรือชั่วโมงที่ต้องเรียนและระเบียบข้อบังคับไว้ชัดเจน
เช่น ในระดับมัธยมศึกษา นักเรียนทุกคนต้องเรียนสัปดาห์ละ 4 คาบ 2 หน่วยการเรียน
เป็นต้น แต่เมื่อปี พ.ศ.2533 ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขหลักสูตรการศึกษา
ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจสังคมและการเมือง ได้ประกาศใช้หลักสูตรใหม่ คือ หลักสูตรประถมศึกษา
, มัธยมศึกษา พุทธศักราช 2524 ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2533 ได้ลดจำนวนคาบวิชาเกษตรลงเหลือ
2 คาบต่อสัปดาห์และยกเลิกวิชาบังคับพื้นฐานอาชีพเกษตรในมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นต้น
สภาพเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน
ได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สังคมเมืองเข้ามาแทนที่สังคมชนบท อาชีพอุตสาหกรรมเข้ามาแทนที่อาชีพการเกษตร
การประกอบอาชีพเกษตรลดน้อยลง ประชากรหันมาประกอบอาชีพหรือรับจ้างงานอุตสาหกรรมในเมือง
โรงงานอุตสาหกรรมมีมากขึ้น พื้นที่ทำการเกษตรลดน้อยลง สภาพสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อมโทรม
ทำให้การประกอบอาชีพการเกษตรมีอุปสรรคและปัญหามากขึ้นได้ผลผลิตที่ไม่แน่นอน ตลาดมีปัญหาทำให้มองเห็นความสำคัญและผลสำเร็จของการประกอบอาชีพการเกษตรลดน้อยลง
ในทางตรงกันข้าม อาหารสำหรับการบริโภคมีราคาแพงขึ้น ความปลอดภัยน้อยลง เป็นต้น