bg
bg
bg
bg
bg
bg
bg
bg
bg
bg
bg
bg
 

 

รายงานการวิจัย

เรื่อง

 

 

การศึกษาผลการดำเนินงานของโครงการดำเนินการจัดการศึกษา

การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์  ปีการศึกษา 2550

Studying the process of the educational research program and the outcome of the progression for students with autism in university from: The Program for Academic Research for Developing the Potential of People with Autism from Kasetsart University Laboratory School Center of Educational Research and

 Development,  Faculty of Education in 2007

 

โดย

ระพีพร     ศุภมหิธร

       

           
บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานของ”โครงการดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัย และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์   ปีการศึกษา 2550   โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะคือ 1.) ศึกษากระบวนการดำเนินงานของโครงการฯ ปีการศึกษา 2550   2.) ศึกษาพัฒนาการของนิสิตออทิสติก 6 คน ด้าน อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบบันทึกการปฏิบัติงานนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ ใบรายงานผลการลงทะเบียนและผลการเรียนของนิสิตออทิสติก  รายงานการประชุมคณะกรรมการฯ  และสรุปรายงานการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการฯและผู้เกี่ยวข้อง  ปีการศึกษา 2550  ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า  1.) กระบวนการดำเนินงานของโครงการฯ ปีการศึกษา 2550 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีปัญหาสำคัญ 2 ด้านคือ นิสิตออทิสติก 2 คน ไม่สามารถเรียนตามหลักสูตรปกติได้ ทางโครงการฯ จึงปรับแผนการเรียนให้โดยคำนึงถึงความสามารถและความชอบของนิสิตออทิสติก ส่วนอีกด้านคือการหานิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ 2.)นิสิตออทิสติกทุกคนมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์  สังคมและสติปัญญาดีขึ้น

 

ABSTRACT

  The purpose of this research was to study the process of “The Program for Academic Research for Developing the Potential of People with Autism from Kasetsart University Laboratory School Center of Educational Research and Development in 2007. The purpose included two majors topics 1) Studying the process of the program in 2007. 2) Studying the developmental skills of the students with autism in the University that consists of intelligence skills, emotional skills and social skills. The researcher collected the data by recording forms of the regular student’s cooperating in the program, who volunteered, and reporting the results from the meeting between the committee and the collaborative team of 2007.  Additionally, the students with autism showed progression of the developmental skills such as intelligence skills, emotional skills and social skills. However, the research has found the problems of two students with autism that could not be successful studying in the regular curriculum. The programs curriculum had to be modified to suit the individual learning for student’s achievement.  Selecting student  volunteers for the program was the other problem.

 

         
กิตติกรรมประกาศ

 

     

งานวิจัยเรื่อง “การศึกษาผลการดำเนินงานของโครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์   ปีการศึกษา 2550”  สำเร็จได้ด้วยคำแนะนำ  ความกรุณา  และความช่วยเหลือจากหลายท่าน ผู้วิจัยขอขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์ ดร.พรทิพย์  ไชยโส  คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ และ รองศาสตราจารย์ ดร. ภาวิณี    ศรีสุขวัฒนานันท์ เป็นอย่างยิ่ง ที่กรุณาชี้แนะแนวทางการสรุปงานวิจัยในครั้งนี้  ขอขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์ ดร.ดารณี  อุทัยรัตนกิจ  อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ี่ให้โอกาสผู้วิจัยได้รับผิดชอบงานและมีโอกาสช่วยเหลือนิสิตออทิสติก  ขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จิตติรัตน์  ทัดเทียมรมย์  ที่ช่วยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เสมอ  ขอบคุณ อาจารย์ สุพัตรา วงศ์วิเศษ แอนดราดี ที่ช่วยให้คำปรึกษาในการเขียน Abstract และขอบคุณ  น.ส.ปิยะฉัตร  นาคประสงค์  ที่ช่วยรวบรวมข้อมูลและช่วยเหลือในทุกๆเรื่องจนทำให้งานวิจัยนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

ระพีพร ศุภมหิธร

มกราคม2552

 

 

ความสำคัญและความเป็นมา

           คนพิการมีสิทธิ์ที่จะได้รับการศึกษาตามที่พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ  พ.ศ.2551 (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551) ได้กำหนดสิทธิทางการศึกษาสำหรับคนพิการ  ตามหมวด 1 มาตรา 5ข้อ (3) ไว้ว่า “ได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา รวมทั้งการจัดหลัสูตรกระบวนการเรียนรู้  การทดสอบทางการศึกษาที่เหมาะสม  สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการแต่ละประเภทและบุคคล” และมาตรา 8 วรรค4 กำหนดให้”สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาในทุกสังกัดมีหน้าที่รับคนพิการเข้าศึกษาในสัดส่วนหรือจำนวนที่เหมาะสม ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด” บุคคลออทิสติกเป็นกลุ่มบุคคลพิการประเภทหนึ่งตามกฎกระทรวงที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือและจัดการศึกษาให้

          มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกที่ให้ความช่วยเหลือบุคคลออทิสติกด้านการศึกษา ตั้งแต่การศึกษาขั้นพื้นฐาน จนถึงระดับอุดมศึกษา  โดยในปีการศึกษา 2533 โรงเรียนสาธิต แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับอนุมัติจาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดทำโครงการความร่วมมือทางวิชาการ และการวิจัยการจัดการศึกษาพิเศษระหว่างโรงเรียนสาธิต แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ฯ  เพื่อวิจัยและจัดการศึกษาให้แก่นักเรียนออทิสติก โดยรับนักเรียนออทิสติกที่ได้รับการวินิจฉัย และบำบัดรักษาจากโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ฯ จนนักเรียนมีอาการดีขึ้นพอที่จะเรียนร่วมกับเด็กปกติได้ ให้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีละ 5 คน ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ขณะนี้มีนักเรียนออทิสติกเข้าเรียนร่วมกับเด็กปกติ  ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 74 คน

จากการประเมินผลการดำเนินงานของโครงการและการติดตามพัฒนาการของนักเรียนออทิสติกในโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  พบว่า นักเรียนทุกคนมีพัฒนาการอย่างเด่นชัด ทั้งด้านการเรียนและพฤติกรรม นักเรียนสามารถเรียนรวมกับนักเรียนปกติ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและมีควาสามารถ ทางสติปัญญาเพิ่มขึ้น พฤติกรรมออทิสติกลดน้อยลง  (ดารณี, 2549)

          ปีการศึกษา 2545 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แต่งตั้ง“คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนตามโครงการวิชาการ และวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์”  โดยมีผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและประมวลผลเป็นประธาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2546 มหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์”  ขึ้น โดยมีคณบดีคณะศึกษาศาสตร์เป็นประธาน มีหน้าที่ดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัย และการติดตามผลนิสิตออทิสติก ให้สามารถศึกษาได้สูงสุดตามศักยภาพของนิสิต และรายงานผลการศึกษาวิจัยให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทราบ

ตั้งแต่ปีการศึกษา 2545-2550 มีนิสิตออทิสติกสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ในโครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกฯ แล้วทั้งหมด จำนวน 5 คน สำเร็จการศึกษาศึกษาศาสตรบัณฑิต (ธุรกิจศึกษา) คณะศึกษาศาสตร์ 1 คน สำเร็จการศึกษาศิลปศาสตรบัณฑิต (ประวัติศาสตร์)  1  คน สำเร็จการศึกษาศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์) คณะสังคมศาสตร์  จำนวน 2 คน และสำเร็จการศึกษา ศิลปศาสตร์บัณฑิต (ภาษาอังกฤษ) คณะมนุษยศาสตร์ จำนวน  1  คน

โครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์  ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 และสามารถช่วยเหลือนิสิตออทิสติกให้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีได้จำนวนหนึ่ง  แต่ในระหว่างดำเนินการผู้วิจัยพบว่ายังมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่มีผลต่อการศึกษาและการใช้ชีวิตในระดับอุดมศึกษาของนิสิตออทิสติก  การศึกษาผลการดำเนินงานของโครงการดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์  จะช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าใจและเป็นแนวทางที่จะร่วมกันหาวิธีการให้ความช่วยเหลือบุคคลออทิสติกให้สามารถศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้ประสบความสำเร็จตามศักยภาพ

 

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานของ ”โครงการดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัย และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการ และวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จากโรงเรียนสาธิแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์”  ปีกาศึกษา 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ ดังนี้

1.  ศึกษากระบวนการดำเนินงาน ของโครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการ และวิจัยต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัเกษตร ศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์   ปีการศึกษา 2550

2.  ศึกษาพัฒนาการของนิสิตออทิสติกด้านอารมณ์ สังคม และสติปัญญา

ขอบเขตของการวิจัย

         

          ศึกษาผลการดำเนินงานของ “โครงการดำเนินการจัดการศึกษาการวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์”  ปีการศึกษา 2550  โดยมีนิสิตออทิสติกเป้าหมายจำนวน 6 คน  ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ปีการศึกษา 2550

      

นิยามศัพท์

            กระบวนการดำเนินงานของโครงการฯ   หมายถึง  การดำเนินการจัดการศึกษา  รูปแบบ  วิธีการช่วยเหลือ  การสนับสนุน  และการติดตามผลต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ  ที่จัดให้กับนิสิตออทิสติกที่ศึกษาใน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ปีการศึกษา 2550

          พัฒนาการของนิสิตออทิสติก   หมายถึง  พัฒนาการของนิสิตออทิสติกที่ศึกษาใน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ปีการศึกษา 2550  ทางด้านอารมณ์  สังคม  และสติปัญญา

     การตรวจเอกสาร

โครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาบุคคลออทิสติกจาก โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์

          มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ได้เห็นความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือบุคคล       ออทิสติก  เริ่มตั้งแต่การศึกษาขั้นพื้นฐาน  โดยการอนุมัติให้โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  รับนักเรียนออทิสติกเข้าศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1  จนถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6  ตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 (จงรักษ์ และคณะ, 2536)  ในปี พ.ศ.2545  มีนักเรียน    ออทิสติกจำนวนหนึ่งสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศาสตราจารย์ ดร.ธีระ  สูตะบุตร  อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในขณะนั้น   มีดำริที่จะให้ความช่วยเหลือนักเรียนออทิสติกกลุ่มดังกล่าวเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์โดยวิธีพิเศษ  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้อนุมัติโครงการเพื่อรับนักเรียนออทิสติกเพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์โดยวิธีพิเศษเมื่อเดือนตุลาคม 2544   แล้วจึงแต่งตั้ง “คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนตามโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์  เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์”  เมื่อเดือนมีนาคม 2545  โดยมีคณะกรรมการดังต่อไปนี้

          1.  ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและประมวลผล              ประธานกรรมการ

          2.  คณบดีคณะศึกษาศาสตร์                                          กรรมการ

          3.  ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์วิจัยการศึกษา        กรรมการ

               เพื่อเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ

               โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

                หรือผู้แทน

          4.  เลขานุการคณะกรรมการอำนวยการ             กรรมการและเลขานุการ

                ศูนย์วิจัยการศึกษาเพื่อเด็กที่ต้องการ

                ความช่วยเหลือพิเศษ โรงเรียนสาธิต

                 แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

          มีหน้าที่รับสมัครและพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติของผู้สมัครเพื่อเข้าศึกษาในคณะ / สาขาที่เหมาะสมกับศักยภาพของผู้สมัครในแต่ละปีการศึกษา  และสรุปผลการพิจารณาให้มหาวิทยาลัยอนุมัติตามลำดับ

          เดือนกุมภาพันธ์ 2546  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนตามโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก   จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์  เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใหม่  ดังนี้

          1.  ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและ                        ประธานกรรมการ

               ประมวลผล  

          2.  คณบดีคณะศึกษาศาสตร์                                         กรรมการ

          3.  คณบดีคณะสังคมศาสตร์                                         กรรมการ

          4.  คณบดีคณะมนุษยศาสตร์                                         กรรมการ

          5.  ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์วิจัยการศึกษา       กรรมการ

                  เพื่อเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ

                  โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

                  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์

                  หรือผู้แทน

6.  เลขานุการคณะกรรมการบริหาร                 กรรมการและเลขานุการ

      ศูนย์วิจัยการศึกษาเพื่อเด็กที่

      ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ

                  โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

                   ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์

          คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนออทิสติกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ฯ  ได้พิจารณานักเรียนออทิสติกกลุ่มแรกที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   ปีการศึกษา 2545   จำนวน 5 ราย  โดยเข้าศึกษาในคณะและสาขาวิชา  ดังนี้

        คนที่ 1 คณะศึกษาศาสตร์        สาขาวิชา  พลศึกษา

        คนที่ 2 คณะศึกษาศาสตร์        สาขาวิชา  ธุรกิจศึกษา

        คนที่ 3 คณะสังคมศาสตร์        สาขาวิชา  สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

        คนที่ 4 คณะสังคมศาสตร์        สาขาวิชา  สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

        คนที่ 5 คณะสังคมศาสตร์        สาขาวิชา  ประวัติศาสตร์

          เดือนกุมภาพันธ์ 2546  รองศาสตราจารย์ ดร.วิโรจ  อิ่มพิทักษ์  อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในขณะนั้น  ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติก ในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์”  ประกอบด้วย

  1. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ                               ที่ปรึกษา
  2. รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต                           ที่ปรึกษา
  3. คณบดีคณะศึกษาศาสตร์                                 ประธานกรรมการ
  4. คณบดีคณะสังคมศาสตร์                                 กรรมการ
  5. คณบดีคณะมนุษยศาสตร์                                กรรมการ
  6. ศาสตราจารย์แพทย์หญิงเพ็ญแข  ลิ่มศิลา             กรรมการ
  7. ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต                             กรรมการ
  8. ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและประมวลผล             กรรมการ
  9. ผู้แทนผู้ปกครองนิสิตออทิสติก                          กรรมการ
  10. ประธานคณะกรรมการบริหาร                            กรรมการ                   ศูนย์วิจัยการศึกษาเพื่อเด็กที่ต้องการ                                                ความช่วยเหลือพิเศษโรงเรียนสาธิต                                  แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศูนย์วิจัย                                             และพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์
  11. ประธานคณะกรรมการดำเนินงานศูนย์วิจัย        กรรมการ                     การศึกษาเพื่อเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ                                    พิเศษโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตร                                   ศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา                                                 คณะศึกษาศาสตร์
  12. นางระพีพร   ศุภมหิธร                              กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

          มีหน้าที่ดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกให้สามารถศึกษาได้สูงสุดตามศักยภาพของนิสิต และรายงานผลการศึกษาวิจัยให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทราบ

          สภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ได้มีประกาศ เรื่อง “ระเบียบว่าด้วยการบริหารโครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิส ติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนา การศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์  พ.ศ.2547”  เมื่อวันที่ 19  พฤษภาคม 2547  และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ได้มีประกาศเรื่อง “กำหนดอัตราค่าเบี้ยประชุม  ค่าสมนาคุณ  ค่าตอบแทน  และค่าใช้จ่ายอื่นๆในการบริหารโครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจาก โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์”  เมื่อวันที่  19  พฤษภาคม  2547

          โครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลอทิสติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์  มีวัตถุประสงค์ดังนี้

  1. เพื่อจัดโอกาสให้นักเรียนออทิสติกที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย  จำนวนหนึ่งจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยวิธีพิเศษ
  2. เพื่อศึกษาวิจัยการเรียนรู้ของบุคคลออทิสติกในระดับอุดมศึกษา  ต่อเนื่องจากการเรียนรู้ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
  3. เพื่อศึกษาพัฒนาการทุกด้านของบุคคลออทิสติกที่ศึกษาในระดับอุดมศึกษา
  4. เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางด้านวิชาการและบริการระหว่างสถาบันทางการศึกษาและสถาบันทางการแพทย์
  5. เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่นวัตกรรมทางการศึกษาสำหรับคนพิการในระดับอุดมศึกษาให้เป็นที่เข้าใจแพร่หลายสู่สาธารณชน

      วิธีการดำเนินงานของโครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์  ในปีการศึกษา 2550  มีดังนี้

1. โครงการความร่วมมือทางวิชาการและการวิจัยการจัดการศึกษาพิเศษระหว่างโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ฯจัดประชุมผู้ปกครองและนักเรียนออทิสติกที่กำลังเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในภาคปลาย  ปีการศึกษา 2549 เพื่อสอบถามความสนใจ ในสาขาวิชาและคณะที่จะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักจิตวิทยาทดสอบทางจิตวิทยา และส่งข้อมูลทั้งหมดรวมทั้งผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนตามโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฯ พิจารณา

2.  คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนตามโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฯ ได้พิจารณาให้นักเรียนออทิสติกที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  โดยวิธีพิเศษ

3.  ปีการศึกษา  2550  จัดประชุมคณะกรรมการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคล    ออทิสติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ เพื่อติดตามความก้าวหน้า  และให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหากับนิสิตออทิสติก และร่วมกันหาแนวทางเพื่อให้การดำเนินงานของโครงการฯ บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้จำนวน  6 ครั้ง ดังนี้

ประชุมครั้งที่  1/2550   วันศุกร์ที่   16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550

ประชุมครั้งที่  2/2550   วันศุกร์ที่    27  เมษายน  พ.ศ.2550

ประชุมครั้งที่  3/2550   วันศุกร์ที่    22  มิถุนายน  พ.ศ.2550

ประชุมครั้งที่  4/2550   วันพฤหัสบดีที่   23  สิงหาคม  พ.ศ.2550

ประชุมครั้งที่  5/2550   วันพฤหัสบดีที่   27  กันยายน  พ.ศ.2550

ประชุมครั้งที่  6/2550   วันพฤหัสบดีที่    6   ธันวาคม  พ.ศ.2550

4.  ส่งข้อมูลเบื้องต้นของนิสิตออทิสติกให้กับอาจารย์ผู้สอนทุกรายวิชาที่นิสิตออทิสติก ลงทะเบียนเรียนทุกภาคการศึกษา

5.  จัดประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการฯและผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ จิตแพทย์ โดย            ศาสตราจารย์แพทย์หญิง เพ็ญแข ลิ่มศิลา  อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ผู้สอน  นิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ  และผู้ปกครองนิสิตออทิสติก  ภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง เพื่อรายงานความก้าวหน้า ผลการเรียน และปัญหาของนิสิตออทิสติกเป็นรายบุคคล และหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือนิสิตออทิสติกร่วมกัน จำนวน 2 ครั้งดังนี้

                      ครั้งที่ 1  เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2550

                      ครั้งที่ 2  เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2550

6.  นิสิตออทิสติกทุกคนจะมีนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ  คอยดูแลและช่วยเหลือในอัตราส่วน 1: 1   ซึ่งภาระงาน (Job Description) ของนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ คือ ประสานกับอาจารย์ผู้สอน  ผู้ปกครอง  ทางด้านการเรียน  โดยพบอาจารย์ที่ปรึกษาของนิสิต   ออทิสติก  สัปดาห์ละ 1 ครั้ง  พบนิสิตออทิสติก  อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ช.ม.   รวบรวมเอกสารการเรียนการสอน ในวิชาที่นิสิตออทิสติกต้องการ   แนะนำแหล่งข้อมูลเพื่อประกอบการเรียน  แนะนำ Tutor  ที่เหมาะสม  และ/หรือ  อาจให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเนื้อหา  ข้อมูล  ความยากง่ายของวิชาต่าง ๆ รวมทั้งอาจารย์ผู้สอนเมื่อได้รับการร้องขอจากนิสิตออทิสติก นอกจากนี้ยังช่วยประสานกับอาจารย์ที่ปรึกษา  อาจารย์ผู้สอน  เมื่อนิสิตออทิสติกเกิดปัญหา และประสานกับกลุ่มเพื่อน  ชี้แนะและชักชวนให้เข้าร่วมกิจกรรม  ทั้งด้านการเรียนและสังคม  โดยแนะนำกิจกรรมที่เหมาะสมให้นิสิตออทิสติกเข้าร่วม  ช่วยดูแลและคอยแนะนำกลุ่มเพื่อนที่เหมาะสม  หากเกิดปัญหาให้แจ้งอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ผู้สอน ผู้ปกครอง หรือผู้เกี่ยวข้องทราบ  นิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ จะต้องส่งแบบบันทึกการปฏิบัติงานทุกสัปดาห์   รวมทั้งประสานกับนักวิจัยประจำโครงการฯ  เพื่อรวบรวมข้อมูลของนิสิตออทิสติกให้กับโครงการฯ โดยก่อนการปฏิบัติงาน ทางโครงการฯ จะจัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลของนิสิตออทิสติก บอกแนวทางและวิธีการให้ความช่วยเหลือ ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะและความต้องการพิเศษของนิสิตออทิสติก รวมทั้งชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ ด้วย

7.   ที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติก  ในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ ได้เสนอ“โครงการดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัยและการติดตามผลนิสิตออทิสติก และนิสิตที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์”  มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณารับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Learning Disabilities, LD) เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วยวิธีพิเศษเพิ่มเติมจากนักเรียนออทิสติก ที่ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว เนื่องจากเด็กพิเศษที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้ความช่วยเหลือ นอกจากเด็กออทิสติกแล้ว ยังมีเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้  (Learning Disabilities, LD) ด้วย โดยทางโครงการฯ ได้เสนอมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อรับนักเรียนทั้งสองกลุ่มที่สำเร็จการศึกษาระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยพิธีพิเศษ  และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติโครงการฯของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ในปีการศึกษา 2550 มีนิสิตออทิสติกในโครงการดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัย และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคล       ออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์  จำนวน 6 คน โดยศึกษาในคณะศึกษาศาสตร์ จำนวน 1 คน  คณะสังคมศาสตร์จำนวน 4  คน  และคณะมนุษยศาสตร์จำนวน  1 คน    ดังนี้

คนที่1

คณะศึกษาศาสตร์

สาขาวิชาพลศึกษา

ชั้นปีที่ 6

คนที่2

คณะสังคมศาสตร์

สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

ชั้นปีที่ 6

คนที่3

คณะมนุษยศาสตร์

สาขาวิชาปรัชญาและศาสนา

ชั้นปีที่ 3

คนที่4

คณะสังคมศาสตร์

สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

ชั้นปีที่ 3

คนที่5

คณะสังคมศาสตร์

สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

ชั้นปีที่ 2

คนที่6

คณะสังคมศาสตร์

สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

ชั้นปีที่ 1

บุคคลออทิสติก

          ออทิซึม  เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งอยู่ในกลุ่มของโรค Pervasive Developmental  Disorders  (PDDs)  ซึ่งเป็นความผิดปกติด้านพัฒนาการอย่างรุนแรง  ลักษณะเฉพาะของกลุ่มนี้ คือมีความผิดปกติในลักษณะของปฏิสัมพันธ์ทางสังคม  รูปแบบของการสื่อความหมายและมีข้อจำกัดความสนใจและพฤติกรรมซ้ำๆ  ความผิดปกติเหล่านี้แสดงออกในทุกสถานการณ์  แต่แตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรงของแต่ละคน  (ชัยชนะ,  2536)

          Autism  พบครั้งแรกในปี ค.ศ.1943  โดยจิตแพทย์ลีโอ   แคนเนอร์  (Dr.Leo  Kanner)  โรงพยาบาลจอห์นฮอปกินส์  โดยศึกษาจากเด็ก 11 คน  ให้ชื่อพฤติกรรมจำเพาะในเด็กกลุ่มนี้ว่า ออทิซึม (autism)  และเรียกเด็กกลุ่มนี้ว่าเด็กออทิสติก  (Autistic Children)  ซึ่งมีความหมายว่า “เด็กที่อยู่ในโลกของตัวเอง”  ศาสตราจารย์แพทย์หญิงเพ็ญแข  ลิ่มศิลา  (2540)  ได้บอกข้อชี้บ่งตามคู่มือการวินิจฉัยและสถิติความผิดปกติทางจิตของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน  ครั้งที่ 3  สำหรับใช้วินิจฉัยโรค “ออทิซึม”  มีหัวข้อใหญ่ 4 หัวข้อ  ซึ่งแต่ละหัวข้อจะแบ่งเป็นข้อย่อย  ดังนี้

       1.  การสูญเสียทางด้านสังคมและไม่สามารถมีปฏิกิริยาต่อสัมพันธภาพของบุคคลได้  ซึ่งจะต้องพบอย่างน้อย 2 ข้อย่อย  ดังนี้

   1.1  แสดงพฤติกรรมไม่สนใจใคร มีการกระทำต่อบุคคลหรือสิ่งมีชีวิตอื่นคล้ายสิ่งของ  ไม่สามารถมีปฏิกิริยาต่อสัมพันธภาพของบุคคล

              1.2  แสดงพฤติกรรมไม่รู้ร้อนรู้หนาว  ไม่รู้จักช่วยตัวเองจากอันตรายต่างๆ

              1.3  ไม่สามารถลอกเลียนแบบการกระทำของคนอื่นได้

              1.4  เล่นกับใครไม่เป็น

              1.5  ไม่สนใจที่จะมีเพื่อน  ไม่สามารถผูกมิตรกับใคร

       2.  มีการสูญเสียทางด้านการสื่อความหมายด้วยการพูด  และไม่ใช้คำพูด ซึ่งจะต้องพบอย่างน้อย 1 ข้อย่อย  ดังนี้

              2.1  ไม่สามารถแสดงพฤติกรรมสื่อความหมายได้เลย

              2.2  มีความผิดปกติอย่างชัดเจนในการสื่อความหมายที่ไม่ใช่คำพูด

              2.3  ขาดจินตนาการในการเล่น

              2.4  มีความผิดปกติอย่างชัดเจนในการเปล่งเสียงพูด

              2.5  มีความผิดปกติอย่างชัดเจนในรูปแบบและเนื้อหาของการพูด

              2.6  ไม่มีความสามารถที่จะสนทนากับใครได้นาน  มักจะพูดแต่เรื่องที่ตนเองสนใจเท่านั้น

       3.  มีการกระทำและความสนใจซ้ำซากอย่างเด่นชัด  ซึ่งจะต้องพบอย่างน้อย 1 ข้อย่อย ดังนี้

              3.1  เคลื่อนไหวส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายซ้ำๆ

              3.2  คิดหมกมุ่นหรือสนใจส่วนหนึ่งส่วนใดของสิ่งของ

    3.3  แสดงความคับข้องใจอย่างมาก  ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเขา  หรือที่เกี่ยวข้องกับกิจวัตรประจำวัน

              3.4  ต้องทำสิ่งหนึ่งที่เคยทำเป็นประจำ  โดยมีรายละเอียดเหมือนเดิม

              3.5  มีความสนใจในขอบเขตที่จำกัด

       4.  เริ่มพบอาการในช่วงอายุระหว่างวัยทารก (ก่อน 30-36 เดือน)  หรือวัยเด็ก  ซึ่งเป็นข้อบังคับว่าต้องมีข้อนี้เสมอ

       เมื่อรวมข้อปลีกย่อยทั้งหมดจากข้อ (1) (2) (3) และ (4)  แล้วต้องพบทั้งหมดไม่น้อยกว่า 8 ข้อย่อย สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเสมอคือ จะต้องพิจารณาว่าความผิดปกติทางพฤติกรรมที่พบนั้น  เป็นความผิดปกติที่เปรียบเทียบจาก ระดับพัฒนาการของเด็กวัยเดียวกันเท่านั้น

       ดารณี และคณะ (2548)  กล่าวว่า  ลักษณะทั่วไปของเด็กกลุ่มนี้ ประกอบด้วย

       1.  พัฒนาการทางสังคม  คือ  เด็กออทิสติกมักมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการสบตา  ไม่ชอบการถูกสัมผัส  และแตะเนื้อต้องตัว   แยกตัวอยู่คนเดียว  และสีหน้าเฉยเมย

       2.  พัฒนาการทางภาษาพูดและการสื่อความหมาย  เด็กออทิสติกพบได้จากเริ่มตั้งแต่พูดไม่ได้  พูดเลียนคำ  พูดภาษาของตนเอง  พูดซ้ำๆ พูดเจื้อยแจ้ว  แต่สนทนาโต้ตอบไม่ตรงประเด็น  พูดแสดงถึงความต้องการของตนเองไม่ได้

       3.  กระบวนการทางความคิด  ความเข้าใจ  เด็กออทิสติกจะขาดจินตนาการ  เล่นสมมติไม่เป็น  ฟังนิทานไม่รู้เรื่อง

       4.  พฤติกรรมซ้ำๆ เช่น  การเคลื่อนไหวร่างกายซ้ำๆ โดยการหมุนตัว  โบกมือไปมา  ชอบดูของหมุนๆ  ชอบดูโฆษณาทางโทรทัศน์ซ้ำๆ   ฟังเพลงซ้ำๆ  เปิดปิดประตู  ไฟฟ้า  วิทยุ  โทรศัพท์  ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเส้นทางเดิน  เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันยาก  ทำให้เกิดการหมกมุ่นกับเหตุการณ์และสิ่งของ  ถ้าถูกขัดใจจะเกิดปัญหาทางด้านอารมณ์  เช่น  กรีดร้อง  ทำร้างร่างกายตนเอง ทำร้ายผู้อื่น

       นอกจากลักษณะทั้ง 4 ด้านนี้แล้ว  ยังพบว่า เด็กที่มีภาวะออทิซึมไม่สามารถเข้าใจความคิดและความรู้สึกทั้งของตนเองและผู้อื่นได้  คือ เด็กออทิสติกจะไม่สามารถสะท้อนความนึกคิดของตนเอง  หรืออธิบายความรู้สึกของการกระทำของตนเองได้ว่า  ทำไมเขาถึงกระทำอย่างนี้  รวมทั้งไม่สามารถเข้าใจมุมมอง  หรือเข้าไปอยู่ในความรู้สึกของผู้อื่นได้  ซึ่งหมายถึง  เด็กที่มีภาวะออทิซึมจะมีสภาวะทางด้านจิตใจที่แตกต่างจากบุคคลทั่วไป  เช่น  ความเชื่อ  ความปรารถนา  ความตั้งใจ  จินตนาการ  และอารมณ์

       บุคคลที่ได้รับการวินิจฉัยมีความบกพร่องในกลุ่มออทิสติก  (Autistic Spectrum Disorders)  หรือบุคคลออทิสติกจะเข้าใจและเกิดความคิดรวบยอดจากสิ่งที่เป็นรูปธรรม  เรียนรู้จากการเห็น (Visual thinking  and learning)  ทำความเข้าใจและตอบสนองได้ดีในสิ่งที่มีโครงสร้างชัดเจน  ข้อตกลงที่บุคคลกลุ่มนี้เข้าใจต้องเป็นรูปธรรม  เรียนรู้ที่จะทำตามแบบที่กำหนดได้  ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างสมบูรณ์แบบ  ซึ่งบางครั้งเกินความพอดี  และจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อได้มีส่วนร่วมคือ ลงมือทำ  โดยเรียนรู้จากการปฏิบัติไม่ใช่จากการฟัง  บุคคลกลุ่มนี้รับรู้สิ่งต่างๆที่ตรงไปตรงมา ไม่เข้าใจในสิ่งที่อ้อมค้อมหรือต้องแปลความ  หากสนใจสิ่งใดจะเรียนรู้ได้ดีมาก  สามารถจดจำในรายละเอียดของบางจุดหรือบางเรื่องที่สนใจเท่านั้น  ขาดความสนใจและมีความยากลำบากในการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นในสังคม   ไม่สนใจที่จะแสวงหาความสุขหรือสนุกกับผู้อื่น  ชอบแยกตัวอยู่คนเดียว  มีความยากลำบากที่จะเข้าใจหรือปฏิบัติตามกฎหรือพฤติกรรมทางสังคมที่เหมาะสมได้  (Robin, 2008)

                Dr.Temple  Grandin  เป็นบุคคลออทิสติกที่ประสบความสำเร็จในชีวิต  มีความเชี่ยวชาญด้านปศุสัตว์  ได้กล่าวว่า บุคคลออทิสติกมีวิธีคิดที่เฉพาะ  (type of specialized thinking)  แบ่งออกเป็น 3 แบบ (Temple, 2008) คือ

                1.  Visual  thinkers/Thinking in Picture  เป็นกลุ่มที่ชอบศิลปะ  ต่อบล็อกเลโก้  เด็กกลุ่มนี้ง่ายที่จะทำให้สนใจวัตถุต่างๆ

                2.  Music and Math thinkers  เป็นกลุ่มที่มีกระบวนการคิดเป็นรูปแบบ (patterns) แทนการคิดเป็นรูปภาพ

                3.  Verbal logic thinkers   เป็นกลุ่มที่ชอบจดบันทึกและตัวเลข  หลายคนสามารถจำตารางการเดินรถประจำทาง  หรือเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ได้  กลุ่มนี้จะมีความสนใจเฉพาะในประวัติศาสตร์  ภูมิศาสตร์  ภูมิอากาศและสถิติทางกีฬา

       ดารณีและคณะ (2548)  กล่าวว่า  โรคออทิซึม และโรคอื่นๆ ในกลุ่ม Pervasive Developmental Disorders (PDDs)  เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้  การรักษาเด็กที่เป็นออทิสติก  คือการนำวิธีการรักษาในด้านต่างๆมาผสมผสานรวมกัน  โดยมีเป้าหมายของการรักษาอยู่ที่การกระตุ้นและฟื้นฟูพัฒนาการในด้านต่างๆ เช่น การพูด  การเข้าสังคม  การรับรู้  และการเรียน  ให้ดีขึ้นจนใกล้เคียงเด็กปกติมากที่สุด  และลดหรือกำจัดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม  การรักษาในด้านเหล่านั้น ได้แก่ การปรับพฤติกรรมและฝึกทักษะทางสังคม  การฝึกพูด  การกระตุ้นพัฒนาการและการฝึกอาชีพ  การจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม  การช่วยเหลือครอบครัว  และการรักษาด้วยยา  ซึ่งสอดคล้องกับศรีเรือน  (2548)  ที่กล่าวว่า  เด็กกลุ่มนี้มักมีความด้อยในทักษะทางภาษาและเหตุผลเชิงนามธรรม ขาดความสามารถในการเชื่อมโยงความรู้เก่า ความรู้ใหม่  การจัดการศึกษาแก่เด็กกลุ่มนี้ต้องมีการจัดการศึกษาอย่างเป็นพิเศษ  การทำการรักษาเด็กกลุ่มนี้ต้องใช้วิธีการทางจิตบำบัดและรักษาด้วยยา  เด็กที่ได้รับการรักษาและให้การศึกษาอย่างถูกวิธี  อาการจะเบาลงได้มาก  การรักษาที่ได้ผลดีมากไม่ว่าในรูปแบบใดต้องได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างมาก  และต้องได้รับความร่วมมือจากบุคลากรหลายความถนัด เช่น แพทย์  นักจิตวิทยา  นักอรรถบำบัด  ครู  นักจิตบำบัด

       ผดุง (2542)  ได้เสนอแนวทางในการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กออทิสติก  ดังนี้

       1.  การปรับหลักสูตร  หลักสูตรควรได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับความต้องการและความสามารถของเด็ก  การจัดการเรียนการสอนควรเน้นขบวนการเพื่อแก้ปัญหา  หรือเพื่อมุ่งบรรเทาปัญหาความบกพร่องของเด็กในด้านทักษะในการสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม  ทักษะในการพูดและการใช้ภาษา  ทักษะในการพัฒนากล้ามเนื้อเล็กกล้ามเนื้อใหญ่  อารมณ์และสังคมของเด็ก  และทักษะในการปรับตัวเพื่อให้เด็กแสดงปฏิกริยาตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม

       2.  การดำรงชีพในสังคม  หลักสูตรสำหรับเด็กออทิสติกไม่ควรเน้นเฉพาะด้านวิชาการ  ควรเน้นทักษะที่จะช่วยให้เด็กสามารถดำรงอยู่ในสังคมได้  โดยไม่อาศัยความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น

       3.  การตอบสนองความต้องการของเด็ก  เด็กออทิสติกมีปัญหาหลายด้าน  ทั้งด้านการแพทย์  ด้านสังคม  ด้านความคิดความจำ  ด้านการพูดและภาษา  ด้านการปรับตัว  และด้านพฤติกรรม  การจัดการเรียนการสอน  เพื่อมุ่งขจัดหรือบรรเทาปัญหาเหล่านี้  จึงควรประกอบด้วยบริการหลายๆด้าน  มีการวางแผนโดยอาศัยความร่วมมือจากบุคลากรหลายฝ่าย

       4.  ความช่วยเหลือเบื้องต้น  เป็นสิ่งจำเป็น ยิ่งเด็กได้รับการช่วยเหลือรวดเร็วเพียงใด  โอกาสที่ปัญหาของเด็กจะบรรเทาลงยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น  ความช่วยเหลือเบื้องต้นที่เด็กควรได้รับ  ได้แก่  ความช่วยเหลือในด้านการสื่อสารและการปรับพฤติกรรม

       5.  การทำงานเป็นทีม  โปรแกรมการช่วยเหลือเด็กออทิสติก ประกอบด้วยบุคลากรหลายฝ่าย เช่น ครูการศึกษาพิเศษ  ครูที่สอนเด็กปกติ  นักแก้ไขการพูด  นักสังคมสงเคราะห์  นักจิตวิทยา  จิตแพทย์  นักกิจกรรมบำบัด  นักกายภาพบำบัด  และบุคลากรทางการแพทย์ที่จำเป็นอื่นๆ

Robin (2008)  ได้เสนอแนวทางการจัดการเรียนการสอนสำหรับบุคคลออทิสติกให้มีประสิทธิภาพ  สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ตามศักยภาพ  มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ

       1.  พิจารณาลักษณะเฉพาะของบุคคลออทิสติกแต่ละคน  เพื่อหาวิธีการพัฒนาและการช่วยเหลือที่เหมาะสม

       2.  บอกเงื่อนไขที่ช่วยให้บุคคลออทิสติก แต่ละคนสามารถเรียนรู้ได้ให้ผู้สอนทราบ

       3.  จัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเพิ่มความรู้ความสามารถในการเรียนรู้และลดสิ่งรบกวนหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมลง

       4.  ใช้การสนับสนุนพฤติกรรมทางบวก (positive behavior supports)  เพื่อช่วยให้พฤติกรรมที่เหมาะสมยังคงอยู่

       5.  มีการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ

       6.  ใช้ข้อมูลที่รวบรวมไว้เพื่อการตัดสินใจในการดำเนินการจัดการเรียนการสอน หรือการให้ความช่วยเหลือ

       จุดประสงค์ทั้งหมดของการจัดการเรียนการสอน  เพื่อเพิ่มความสามารถในการดำเนินชีวิตของบุคคลออทิสติกให้มีชีวิตอยู่อย่างอิสระได้

       บุคคลออทิสติกเป็นกลุ่มผู้พิการประเภทหนึ่งที่พบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสามารถพบได้ทั้งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา  ดารณี และคณะ (2548)  กล่าวว่า  ผลการศึกษาจากการใช้เกณฑ์ “ภาวะออทิสติกสเปคตรัม”  ในการวินิจฉัย พบว่า  ความชุกของบุคคลที่มีภาวะออทิซึมเพิ่มขึ้นเป็น 21 ในเด็ก 10,000 คน หรือในเด็กทุก 500 คน พบเด็กออทิสติก 1 คน  และจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่า  ภายหลังจากได้มีการประกาศใช้แบบทดสอบใหม่  ทำให้ประชากรกลุ่มออทิสติก (Autistic Spectrum Disorders)  เพิ่มขึ้นอย่างมาก คือมีประมาณ 6 ใน 1,000 (ร้อยละ 0.6)  ของประชากรทั้งหมด  สำหรับประเทศไทยพบความชุกของโรคออทิซึมในเด็กอายุ 1-5 ปี เท่ากับ  9.9 : 10,000 คน  ซึ่งใกล้เคียงกับการศึกษาของหลายประเทศที่มีค่าอยู่ระหว่าง 3.3 – 16 :10,000 คน  จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้สันนิฐานได้ว่า ในอนาคตจะมีบุคคล   ออทิสติกเข้าสู่ระบบการศึกษาของประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การให้ความช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้จึงมีความจำเป็นต้องทำอย่างเป็นระบบ  และมีรูปแบบที่ชัดเจน  จึงจะช่วยให้บุคคลออทิสติกพัฒนาได้เต็มตามศักยภาพและสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ด้วยตัวเอง

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยที่ให้โอกาสกับบุคคลออทิสติกมาเกือบ 20 ปี  โดยเปิดโอกาสให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  และให้โอกาสในการเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาโดยวิธีพิเศษ  บัดนี้มีบุคคลออทิสติกจำนวนหนึ่งสามารถสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี  อีกจำนวนหนึ่งสามารถใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้  ปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่และดำเนินชีวิตได้  สามารถพึ่งพาตนเองและมีชีวิตอยู่อย่างอิสระได้ระดับหนึ่ง  อย่างไรก็ตามการให้ความช่วยเหลือบุคคลออทิสติกในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแตกต่างจากระดับอุดมศึกษา  ด้วยลักษณะและความต้องการพิเศษของเขาเปลี่ยนไป  ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษากระบวนการดำเนินงานของ “โครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจาก โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์”   และ ศึกษาพัฒนาการของนิสิตออทิสติกด้านอารมณ์  สังคม และสติปัญญา  โดยศึกษาเฉพาะปีการศึกษา 2550  โดยคาดหวังว่า ผลการวิจัยที่ได้จะเป็นแนวทางสำหรับสถาบันการศึกษาอื่นๆ  นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานศึกษาและความต้องการพิเศษเฉพาะของบุคคลออทิสติก  ซึ่งจะช่วยให้บุคคลออทิสติกสามารถช่วยเหลือตนเอง  ไม่เป็นภาระต่อครอบครัว  สังคม  และประเทศชาติ

วิธีดำเนินการวิจัย

       การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานของ  “โครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์”  ปีการศึกษา 2550  โดยมีวิธีการดำเนินการวิจัยตามวัตถุประสงค์เฉพาะ  ดังนี้

  1. การศึกษากระบวนการดำเนินงานของโครงการฯ ปีการศึกษา 2550
  2. การศึกษาพัฒนาการของนิสิตออทิสติกเป้าหมาย

1.  การศึกษากระบวนการดำเนินงานของโครงการฯ ปีการศึกษา 2550

  1.  ตัวแปรที่ศึกษา คือ ความเหมาะสม และปัญหา / อุปสรรค ในขั้นตอนของการดำเนินงานของโครงการฯ ต่อไปนี้

1.1.1  การพิจารณารับนักเรียนออทิสติกที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายปีการศึกษา 2549 จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์โดยวิธีพิเศษ  ดำเนินการโดยประชุมผู้ปกครองและนักเรียนออทิสติกเพื่อสอบถามความสนใจในสาขาวิชาและคณะที่จะเข้าศึกษาต่อ คณะกรรมการฯพิจารณาจากข้อมูลที่นักจิตวิทยาทดสอบ ผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทั้งความสนใจและความสามารถของนักเรียนออทิสติก  เสนอมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่ออนุมัติ

1.1.2  การคัดเลือกนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ  เพื่อดูแลและให้ความช่วยเหลือนิสิตออทิสติกที่เข้าศึกษาในปีการศึกษา 2550 ชี้แจงและมอบหมายงานตามภาระงานที่คณะกรรมการฯ กำหนด

1.1.3  การประสานงานระหว่างคณะกรรมการฯ และผู้เกี่ยวข้อง  ฝ่ายเลขานุการประกอบด้วย เลขานุการคณะกรรมการฯ และนักวิจัยประจำโครงการฯ ส่งข้อมูลเบื้องต้นของนิสิต     ออทิสติกจำนวน 6 คน ให้กับอาจารย์ผู้สอนทุกรายวิชาที่นิสิตออทิสติกลงทะเบียนเรียนในภาคต้นและภาคปลาย ปีการศึกษา 2550 จัดประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการฯ และผู้เกี่ยวข้อง ภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง

1.1.4  การให้ความช่วยเหลือระหว่างการดำเนินงานของโครงการฯ  คณะกรรมการฯ ประชุมร่วมกันเพื่อรับทราบปัญหาของนิสิตออทิสติกเป็นรายบุคคล โดยฝ่ายเลขานุการรวบรวมข้อมูลจากแบบบันทึกการปฏิบัติงานทุกสัปดาห์และการรายงานของนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ รวมทั้งจากอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ผู้สอน และผู้ปกครองนิสิตออทิสติก เพื่อวางแผนและหาแนวทางให้ความช่วยเหลือ มีการประชุมจำนวน 6 ครั้ง

    1.2  รวบรวมข้อมูลจาก

1.2.1  รายงานการประชุมของ”คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนตามโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์  เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” ปีการศึกษา 2550 จำนวน 1 ฉบับ

1.2.2   รายงานการประชุม “คณะกรรมการดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัย และติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคล       ออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์”   ปีการศึกษา 2550  จำนวน 6 ฉบับ

1.2.3  ใบรายงานผลการลงทะเบียนเรียน ของนิสิตออทิสติกภาคต้น – ภาคปลายปีการศึกษา 2550

2.  การศึกษาพัฒนาการของนิสิตออทิสติกเป้าหมาย จำนวน 6 คน

        ในปีการศึกษา 2550  มีนิสิตออทิสติกศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  จำนวน 6 คน  ซึ่งเป็นนิสิตออทิสติกเป้าหมาย

            2.1 ตัวแปรที่ศึกษา คือ

2.1.1  พัฒนาการทางด้านอารมณ์

2.1.2  พัฒนาการด้านสังคม

2.1.3  พัฒนาการด้านสติปัญญา

2.1.4  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนิสิตออทิสติก

            2.2 รวบรวมข้อมูลจาก

2.2.1  แบบบันทึกการปฏิบัติงานของนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯของนิสิตออทิสติกรายบุคคล

2.2.2  ผลการเรียนของนิสิตออทิสติก ภาคต้น – ภาคปลาย  ปีการศึกษา 2550

2.2.3  รายงานการประชุม คณะกรรมการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์  ปีการศึกษา 2550 จำนวน 6 ฉบับ

2.2.4  บทสรุปรายงานการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์และผู้เกี่ยวข้อง ปีการศึกษา 2550 จำนวน 2 ฉบับ

 

ผลการวิจัยและข้อวิจารณ์       

ผลการวิจัย

       การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานของ  “โครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์”  ปีการศึกษา 2550 โดยนำเสนอผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์เฉพาะ  ดังนี้

1.กระบวนการดำเนินงานของโครงการดำเนินการจัดการศึกษา การวิจัย และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์   ปีการศึกษา 2550  ศึกษาความเหมาะสมและปัญหา/อุปสรรคในขั้นตอนของการดำเนินงานของโครงการฯ พบว่า

1.1 การพิจารณารับนักเรียนออทิสติก ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์โดยวิธีพิเศษ  มีความเหมาะสม นักเรียนออทิสติกได้เรียนต่อในสาขาวิชาและคณะที่ตนสนใจและเหมาะสมกับความสามารถ ปัญหา/อุปสรรคที่พบคือ นักเรียนออทิสติกมีความสนใจบางสาขาวิชามากกว่า แต่ไม่ผ่านเกณฑ์เฉพาะของสาขาวิชานั้นๆ ทำให้ทางคณะไม่สามารถรับเข้าศึกษาได้ เช่น สาขาวิชาดนตรีสากล  ภาควิชาศิลปะนิเทศ คณะมนุษยศาสตร์เป็นต้น  ทำให้ต้องเลือกเรียนในสาขาวิชาที่สนใจรองลงมา

1.2 การคัดเลือกนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามภาระงานที่ได้รับมอบหมาย  สามารถช่วยเหลือนิสิตออทิสติกได้มาก แบบบันทึกการปฏิบัติงานและการรายงานของนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ ช่วยให้คณะกรรมการฯ สามารถวางแผนและให้ความช่วยเหลือนิสิตออทิสติกได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดปัญหา  และช่วยให้นิสิตออทิสติกปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ได้ดีขึ้น  มีทักษะทางสังคมเพิ่มขึ้น ปัญหา/ อุปสรรคที่พบคือ มีความยากลำบากในการหานิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ  นิสิตบางคนอยากทำแต่ไม่มีเวลา  หรือบางคนไม่แน่ใจวิธีสร้างสัมพันธภาพที่เหมาะสมกับนิสิตออทิสติก ซึ่งทางโครงการฯ ได้ปฐมนิเทศ ประชุม ชี้แจง  และบอกแนวทางปฏิบัติและข้อมูลของนิสิตออทิสติกให้ บางคนสอบผ่านวิชานั้นๆ ก่อน ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือนิสิตออทิสติกได้ดีเท่าที่ควร สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ นิสิตควรเรียนสาขาวิชาเดียวกันและเรียนด้วยกันกับนิสิตออทิสติกมากที่สุด และควรเป็นความสมัครใจและยินดีที่จะทำหน้าที่ของนิสิตอาสาสมัครฯ รวมทั้งความสบายใจของนิสิตออทิสติกด้วย

1.3 การประสานงานระหว่างคณะกรรมการฯ และผู้เกี่ยวข้อง โดยมีการประชุมร่วมกันและร่วมมืออย่างใกล้ชิด สามารถช่วยสนับสนุนให้นิสิตออทิสติกประสบความสำเร็จในการเรียนและใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้ดีขึ้น

1.4 การให้ความช่วยเหลือระหว่างการดำเนินงานของโครงการฯ โดยมีคณะกรรมการฯ เป็นผู้ดำเนินการวางแผนและวางรูปแบบในการช่วยเหลือ สามารถช่วยเหลือนิสิต   ออทิสติกเมื่อเกิดปัญหาได้ จากการศึกษาพบว่า นิสิตออทิสติกสามารถเรียนได้ดีในวิชาประเภทความจำ และวิชาที่ใช้ทักษะกลไกการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น Badminton,  Ethics, Social Psychology,    Introduction to Speech Communication, Marxist Philosophy, Introduction philosophy, Introduction to Education Technology, Mahayana buddhism, Archery  และที่เรียนไม่ได้หรือเรียนได้ไม่ดี  ในวิชาประเภทคิดวิเคราะห์  และประมวลความรู้ความคิด  เช่น  Sociological Thought & Theory, Fundamental English Writing, General Psychology, Introduction to Anthropology, Introduction to Sociology, Urban Sociology เป็นต้น  นิสิตออทิสติกต้องเรียนตามหลักสูตรปกติ บางคนสามารถเรียนได้และเรียนได้ดีในบางรายวิชาที่ใช้การจำเป็นส่วนใหญ่ แต่บางคนไม่สามารถเรียนบางรายวิชาโดยเฉพาะวิชาที่เน้นการคิดขั้นสูง การวิเคราะห์วิจารณ์ได้ ทำให้สอบไม่ผ่านหรือต้องงดเรียน ทางโครงการฯ ต้องปรับแผนการเรียนของนิสิตออทิสติกจำนวน 2 คน คือ นิสิตคนที่ 1 (คณะศึกษาศาสตร์  สาขาพลศึกษา  ปี 6) และนิสิตคนที่ 2 (คณะสังคมศาสตร์  สาขาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา ปี 6 ) โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาให้คำแนะนำ และคำนึงถึงความสามารถและความชอบของนิสิตออทิสติก  การปรับแผนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับศักยภาพของนิสิตออทิสติก หรือการจัดแผนการเรียนรู้เฉพาะบุคคล จะช่วยให้นิสิตออทิสติก ประสบผลสำเร็จในการเรียนได้ดีขึ้น

2.  นิสิตออทิสติกมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ สังคม และสติปัญญาดีขึ้น  พบว่า

 2.1. พัฒนาการทางด้านอารมณ์  นิสิตออทิสติกรู้จักที่จะแสดงออกมากขึ้น สามารถแสดงความรู้สึกในเวลาที่เหมาะสมมากขึ้น แต่ยังมีความเครียดและวิตกกังวลกับสิ่งต่างๆ ทั้งเรื่องการเรียน การทำงาน  และสภาพแวดล้อมรอบตัว  การเปลี่ยนสถานะภาพจากนักเรียนมาเป็นนิสิตมหาวิทยาลัย ทำให้นิสิตออทิสติกมีปัญหาในการจัดการกับเวลาที่ว่างจากการเรียน  ทำให้เกิดความรู้สึก เหงา และขาดเพื่อน

2.2  พัฒนาการทางด้านสังคม   นิสิตออทิสติกมีทักษะทางสังคมเพิ่มขึ้น สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น  ยอมรับที่จะเรียนรู้  และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น   มีการทำงานร่วมกับผู้อื่น รับผิดชอบและรู้หน้าที่ของตนเองเพิ่มขึ้น  แต่บางครั้งยังชอบอยู่ในโลกส่วนตัว  ชอบอยู่คนเดียว  เมื่ออยู่ในมหาวิทยาลัยนิสิตออทิสติกต้องพึ่งตัวเองมากขึ้น  มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น  ต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้เกี่ยวข้อง  การมีนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ ช่วยนิสิตออทิสติกในการปรับตัวด้านการเรียนและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้มาก

2.3  พัฒนาการทางด้านสติปัญญา นิสิตออทิสติกได้เรียนรู้ในวิชาที่ยากขึ้น  และมีการคิดวิเคราะห์เพิ่มขึ้น  ทำให้มีพัฒนาการทางสติปัญญาเพิ่มขึ้น รู้จักการช่วยเหลือตนเองในการแก้ปัญหาต่างๆ   แต่นิสิตออทิสติกบางคนก็ยังไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ต้องมีผู้คอยให้คำปรึกษาและแนะนำ

2.4  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนิสิตออทิสติก     ปีการศึกษา 2550

นิสิตคนที่ 1 คณะศึกษาศาสตร์  สาขาพลศึกษา ปี 6  เกรดเฉลี่ย  2.04

นิสิตคนที่ 2 คณะสังคมศาสตร์  สาขาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา ปี 6  เกรดเฉลี่ย  1.83

นิสิตคนที่ 3 คณะมนุษยศาสตร์  สาขาวิชาปรัชญาและศาสนา ปี 3  เกรดเฉลี่ย  2.93

นิสิตคนที่ 4         คณะสังคมศาสตร์  สาขาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา   ปี 3 เกรดเฉลี่ย   2.39

นิสิตคนที่ 5 คณะสังคมศาสตร์  สาขาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา   ปี 2  เกรดเฉลี่ย  2.57

นิสิตคนที่  6        คณะสังคมศาสตร์  สาขาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา   ปี 1  เกรดเฉลี่ย 1.55

        พบว่า   นิสิตออทิสติกคนที่ 1 ถึงคนที่ 5 มีเกรดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2549

สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้

1.  กระบวนการดำเนินงานของโครงการฯ ปีการศึกษา 2550  ซึ่งวางแผนและดำเนินการตามรูปแบบวิธีการที่โครงการฯ ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546  โดยมีคณะกรรมการฯ เป็นผู้วางแผนการดำเนินงาน วางรูปแบบการให้ความช่วยเหลือ  มีการประชุมและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างคณะกรรมการฯและผู้เกี่ยวข้อง  ได้แก่ จิตแพทย์  อาจารย์ที่ปรึกษา  อาจารย์ผู้สอน  นิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ  และผู้ปกครองนิสิตออทิสติก  ทำให้โครงการฯประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี  ปัญหา / อุปสรรคที่พบ คือ นิสิตออทิสติกจำนวน 2 คน ไม่สามารถเรียนตามหลักสูตรปกติได้  ทางโครงการฯ ต้องปรับแผนการเรียนโดยให้เรียนตามความสามารถและความสนใจ  และความยากลำบากในการหานิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ

        2. นิสิตออทิสติกมีพัฒนาการด้านอารมณ์  สังคม  และสติปัญญาดีขึ้น  รู้จักแสดงออกและแสดงความรู้สึกในเวลาที่เหมาะสมขึ้น  มีทักษะทางสังคมเพิ่มขึ้น  สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น ยอมรับที่จะเรียนรู้และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น  รู้จักช่วยเหลือตนเองในการแก้ปัญหาต่างๆเพิ่มขึ้น  และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2549 ทุกคน

   

ข้อวิจารณ์
                   

บุคคลออทิสติกมีความยากลำบากในการปรับตัวเข้าสู่สังคมใหม่ (รัชนี, มปป)  การให้ความช่วยเหลือบุคคลออทิสติกอย่างเป็นระบบตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่  จะช่วยให้บุคคล   ออทิสติกสามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้ดีขึ้น  (Robin และ Trary 2008) กระบวนการดำเนินงานของโครงการดำเนินการจัดการศึกษา  การวิจัย  และการติดตามผลนิสิตออทิสติกในโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์  ปีการศึกษา 2550  ซึ่งมีการวางแผนและดำเนินการตามรูปแบบที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546  โดยมีคณะกรรมการฯ เป็นผู้วางแผนการดำเนินงาน  วางรูปแบบและแนวทางในการให้ความช่วยเหลือนิสิตออทิสติกอย่างเป็นระบบ  มีการปรับเปลี่ยนวิธีการให้ความช่วยเหลือนิสิตออทิสติกโดยพิจารณาเป็นรายกรณี  การประชุมและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างคณะกรรมการฯ และผู้เกี่ยวข้อง  ทำให้โครงการฯประสบความสำเร็จ  สามารถช่วยให้นิสิตออทิสติกมีพัฒนาการด้านอารมณ์  สังคม  และสติปัญญาดีขึ้น  ควบคุมอารมณ์และแสดงความรู้สึกในเวลาที่เหมาะสมดีขึ้น  ยอมรับที่จะเรียนรู้และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น  มีทักษะทางสังคมเพิ่มขึ้น  ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้ดีขึ้น  รู้จักที่จะคิดและหาหนทางแก้ปัญหาให้กับตนเองดีขึ้น

       ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของโครงการฯ ที่พบ  คือ

1.ความสามารถของนิสิตออทิสติกด้านการเรียน พบว่า  นิสิตออทิสติกต้องเรียนตามหลักสูตรปกติ  บางคนสามารถเรียนได้  แต่บางคนไม่สามารถเรียนบางรายวิชาตามหลักสูตรได้ดีเท่าที่ควรหรือบางคนสอบไม่ผ่าน  โดยเฉพาะวิชาที่เน้นการคิดขั้นสูง  การคิดวิเคราะห์สังเคราะห์  หรือวิจารณ์  ทำให้นิสิตออทิสติกบางคนต้องใช้เวลาในการเรียนเพิ่มขึ้น  หรือบางคนต้องออกจากหลักสูตรปกติ และเลือกเรียนวิชาตามความสนใจแทน

2. การจัดนิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ พบว่า มีความยากลำบากในการหานิสิตอาสาสมัครประจำโครงการฯ บางคนสอบผ่านวิชานั้นๆ ก่อน  ทำให้เรียนวิชาต่างกันกับนิสิต    ออทิสติก   การให้ความช่วยเหลือต่างๆจึงไม่ดีเท่าที่ควร  หรือบางคนอยากทำแต่ไม่มีเวลา  บางคนไม่แน่ใจวิธีสร้างสัมพันธภาพที่เหมาะสม  บางคนเกิดปัญหาความไม่เข้าใจกับพฤติกรรม และการแสดงออกของนิสิตออทิส ติก  ทำให้เบื่อ  ไม่อยากทำ  และปฏิเสธที่จะทำการให้ความรู้และข้อมูลเบื้องต้นของนิสิตออทิสติกแต่ละคนกับผู้เกี่ยวข้อง  เป็นความจำเป็นและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง  ทำให้ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าใจ  และร่วมกันหาวิธีที่เหมาะสมที่จะช่วยให้นิสิตออทิสติก ประสบความสำเร็จในการเรียน  การปรับตัว  และการใช้ชีวิตในสังคมหาวิทยาลัย

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป

                1.  ควรศึกษารูปแบบหรือวิธีการให้ความช่วยเหลือที่อาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์ผู้สอนใช้เพื่อช่วยให้นิสิตออทิสติกประสบความสำเร็จในการเรียนหรือการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย

                2.  ควรศึกษาเทคนิคหรือวิธีการที่นิสิตออทิสติกใช้ในการช่วยเหลือตนเองให้สามารถเรียนหรือปรับตัวเข้ากับสังคมมหาวิทยาลัยได้ประสบความสำเร็จ

 

ประวัติผู้วิจัย
 

ชื่อ

                นางระพีพร     ศุภมหิธร

สังกัด

                โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา

คณะศึกษาศาสตร์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  วิทยาเขตบางเขน

วุฒิการศึกษา

       วิทยาศาสตรบัณฑิต  (คหกรรมศาสตร์)  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

       ศึกษาศาสตรบัณฑิต  (ปฐมวัยศึกษา)  มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

       คหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต  (พัฒนาการเด็กและครอบครัว)  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

การอบรมและศึกษาดูงาน

อบรมและศึกษาดูงานด้านการศึกษาพิเศษ ระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2545 ณ เมือง Denver  ประเทศสหรัฐอเมริกา

        -  อบรมหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพบุคลากรประจำศูนย์บริการนักศึกษาพิการแบบเข้ม

(Intensive Program)  ช่วงที่ 1-2  วันที่ 19-29 พฤษภาคม 2551และ  วันที่ 5-15 สิงหาคม 2551  ณ วิทยาลัยราชสุดา  มหาวิทยาลัยมหิดล  ศาลายาจังหวัดนครปฐม

       -  อบรมหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพบุคลากรประจำศูนย์บริการนักศึกษาพิการแบบเข้ม

        (Intensive Program)  ช่วงที่ 3 วันที่ 17 ตุลาคม – 7 พฤศจิกายน 2551  ณ University of

        Northern Colorado ประเทศสหรัฐอเมริกา

       -  อบรมและสัมมนาสรุปบทเรียนการฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพบุคลากรประจำ

        ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ เพื่อร่วมจัดทำหลักสูตรอบรมในรุ่นถัดไป  วันที่ 20-21

        มีนาคม 2552  ณ โรงแรมภูริมาศ  บิช แอนด์ สปา จังหวัดระยอง

งานในความรับผิดชอบ

-  หัวหน้าและประธานคณะกรรมการดำเนินงานศูนย์วิจัยการศึกษาเพื่อเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ   ปีการศึกษา 2551 – ปัจจุบัน

       -  กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารศูนย์วิจัยการศึกษาเพื่อเด็กที่ต้องการ

ความช่วยเหลือพิเศษ  ปีการศึกษา 2550 – ปัจจุบัน

       -  หัวหน้าโครงการการศึกษาพิเศษ 2  ศูนย์วิจัยการศึกษาเพื่อเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ

       พิเศษ  ปีการศึกษา 2549 – ปัจจุบัน

-  กรรมการและเลขานุการโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคล ออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์   ปีการศึกษา 2550 - ปัจจุบัน

                -  กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการบริหารศูนย์วิจัยการศึกษาเพื่อเด็กที่ต้องการ

ความช่วยเหลือพิเศษ  ปีการศึกษา 2546 – 2549

-  กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการโครงการวิชาการและวิจัยต่อเนื่อง  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติกจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์   ปีการศึกษา 2546 - 2549

ผลงานวิชาการ

         ระพีพร  ศุภมหิธร.  2540.  เทคนิคปราบพยศออทิสติก...แจ๊คผู้เกือบปราบครู...

                     วารสารแนะแนว  ปีที่ 31  ฉบับที่ 166  พ.ศ. 2540  หน้า 63-66

            ระพีพร  ศุภมหิธร.  2549.  เทคนิคการสอนเด็กออทิสติก.  วารสารวิทยาจารย์

                      

ปีที่ 105 ฉบับที่ 4  กุมภาพันธ์ 2549  หน้า 52-55

 

เอกสารอ้างอิง

จงรักษ์  ไกรนาม  จีรพันธุ์  พลพัฒน์  ดารณี  อุทัยรัตนกิจ.  การศึกษาพิเศษสำหรับเด็ก      

        ออทิสติกในโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.  วารสารยุวประสาทฯ

         ปีที่ 4  ฉบับที่ 3  ก.ย. – ธ.ค. 2536  หน้า 7 – 13.

ชัยชนะ  นิ่มนวล.  การวินิจฉัย Pervasive developmental  disorders.  วารสารยุวประสาทฯ

         ปีที่ 4  ฉบับที่ 1 ม.ค. – เม.ย.  2536  หน้า 8 – 12.

ดารณี  อุทัยรัตนกิจ.  2549.  การจัดการศึกษาสำหรับเด็กออทิสติก.  เอกสารประกอบการ

         สัมมนา  เรื่องการพัฒนาศักยภาพบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้  สมาธิสั้น และ

         ออทิซึม จัดโดยภารกิจโครงการและประสานงานวิจัย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ

        (28 สิงหาคม 2549)

ดารณี  อุทัยรัตนกิจ  ชาญวิทย์ พรนภดล  วัจนินทร์ โรหิตสุข  นิรมล  ยสินธร  สุพัตรา วงศ์วิเศษ

         แอนดราดี.  2548.  การพัฒนาศักยภาพนักเรียนที่มีภาวะออทิซึม  สมาธิสั้น และ

       บกพร่องทางการเรียนรู้ :  ระยะที่ 1 การสร้างกระบวนการและเครื่องมือที่เป็น

       มาตรฐานสำหรับคัดกรองนักเรียนที่มีภาวะสมาธิสั้นบกพร่องทางการเรียนรู้ และ

       ออทิซึม.  สำนักคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ,  กรุงเทพฯ.

ผดุง  อารยะวิญญู.  2542.  การศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ.  บริษัทรำไทย เพรส

         จำกัด, กรุงเทพฯ.

เพ็ญแข  ลิ่มศิลา.  2540.  การวินิจฉัยโรค “ออทิซึม”.  ช.แสงงามการพิมพ์,  สมุทรปราการ.

รัชนี  ฉลองเกื้อกูล.  การดำเนินโรคของบุคคลออทิสติกเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่.

         เอกสารโรงพยาบาลศรีธัญญา  จ.นนทบุรี

ศรีเรือน  แก้วกังวาล.  2548.  จิตวิทยาเด็กที่มีลักษณะพิเศษ.  สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน.

         กรุงเทพฯ.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  กระทรวงศึกษาธิการ.  2551.  พระราชบัญญัติ

       การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551.  โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง

         ประเทศไทย จำกัด,  กรุงเทพฯ

Robin D. Brewer.  2008.  Unique Considerations for Teaching students with Autism Part

        1,2.  เอกสารประกอบคำบรรยายในการอบรมบุคลากรประจำศูนย์บริการนักศึกษาพิการ

          แบบเข้ม (Intensive Program) วันที่ 7 สิงหาคม 2551.

Robin D. Brewer and Tracy G. Mueller.  2008.  Strategies at Hand. Autism Asperger Publishing Company,  Kansas USA.

Temple Grandin.  2008.  The Way I see It.  Future Horizon, Anlington,  USA.

 

 

 

 
 

 

ศูนย์วิจัยการศึกษาเพื่อเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและ พัฒนาการศึกษา
ตู้ ปณ.1050 ปณฝ.เกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท์ 02-9428800-9 ต่อ 701

 

 

จำนวนผู้เข้าชมตั้งแต่ 01/01/2552: